แบบประกัน FIRST CLASS

  • วงเงินผลประโยชน์สูงถึง 120 ล้านบาท
    ต่อรอบปีกรมธรรม์ ครอบคลุมทุกการรักษาพยาบาล ทั้งผู้ป่วยใน ผู้ป่วยนอก ทันตกรรม สายตา การคลอดบุตร รวมถึงค่าผ่าตัด แล็บ เอกซเรย์ ล้างไต เคมีบำบัด รักษามะเร็งแบบมุ่งเป้า (Targeted Therapy) และค่ารักษาโรคทางจิตเวช เป็นต้น

  • คุ้มครองค่ารักษาเชิงป้องกัน
    ทั้ง ค่าฉีดวัคซีน สูงสุดถึง 80,000 บาทต่อรอบปีกรมธรรม์ และ ค่าตรวจสุขภาพประจำปีสูงสุดถึง 30,000 บาท (1 ครั้งต่อรอบปีกรมธรรม์)

  • พิเศษ บริการดูแลตลอดการเจ็บป่วยได้แก่ บริการช่วยเหลือฉุกเฉินทางการแพทย์ บริการผู้ช่วยส่วนบุคคล และบริการดูแลคุณยามพักฟื้นที่บ้าน

1 of 3

หมายเหตุ: บริการดูแลตลอดการเจ็บป่วย เป็นการให้บริการโดย บริษัท เอ ดับเบิลยู พี เซอร์วิชเซส (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งการให้บริการมีเงื่อนไข กรุณาตรวจสอบก่อนใช้บริการ  

  • Beyond Platinum

    - วงเงินสูงสุด 100 ล้านบาทต่อปี
    -ครอบคุลมทุกการรักษาพยาบาล
    -ค่าตรวจสุขภาพสูงสุดถึง 20,000บาท/ปี

    เลือก 
  • Paltinum

    - วงเงินสูงสุด 80 ล้านบาทต่อปี
    -ครอบคุลมทุกการรักษาพยาบาล
    -ค่าตรวจสุขภาพสูงสุดถึง 15,000บาท/ปี

    เลือก 

Firstclass table

ดูแลค่ารักษาพยาบาลเมื่อเจ็บป่วยต้องนอน หรือไม่นอน รพ. แบบเหมาจ่ายตามจริงค่ารักษาพยาบาลสูงสุดถึง 120 ล้านบาทต่อรอบปีกรมธรรม์ ที่โรงพยาบาลเครือบีดีเอ็มเอส กว่า 44 โรงพยาบาลทั่วประเทศไทยและกัมพูชา

มีให้เลือก 2 แผนความคุ้มครอง แผนบียอนด์ แพลทินัม (วงเงินผลประโยชน์ 120 ล้านบาทต่อรอบปีกรมธรรม์) และ แผนแพลทินัม (วงเงินผลประโยชน์ 60 ล้านบาทต่อรอบปีกรมธรรม์)

 

จุดเด่น แผนบียอนด์ แพลทินัม แผนแพลทินัม
ผลประโยชน์และความคุ้มครอง
ต่อรอบปีกรมธรรม์
สูงสุด 120 ล้านบาท สูงสุด 60 ล้านบาท
ค่ารักษาพยาบาล – ผู้ป่วยใน จ่ายตามจริง จ่ายตามจริง
(มีการจำกัดวงเงินผลประโยชน์ เช่น ค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าบริการในโรงพยาบาลต่อวัน ค่าใช้จ่ายรายวันเพื่อการดูแล กรณีผู้เอาประกันภัยมีอายุต่ำกว่า 16 ปี ค่ารักษาโรคทางจิตเวช เป็นต้น)    
ค่ารักษาพยาบาล – ผู้ป่วยนอก จ่ายตามจริง จ่ายตามจริง
(สูงสุด 30 ครั้งต่อรอบปีกรมธรรม์)    
    สามารถเลือกซื้อเพิ่มได้
ค่าฉีดวัคซีน* 80,000 บาท 50,000 บาท
ค่าตรวจสุขภาพประจำปี* 30,000 บาท 15,000 บาท
(สูงสุด 1 ครั้งต่อรอบปีกรมธรรม์)    
ค่าตรวจรักษาทันตกรรม 100,000 บาท 45,000 บาท
(ชดเชย 80% ของค่ารักษาพยาบาล)   (เพิ่มเติมจากผลประโยชน์ 60 ล้านบาท)
     
    สามารถเลือกซื้อเพิ่มได้
ค่าตรวจรักษาสายตา* 15,000 บาท ไม่คุ้มครอง
(ชดเชย 80% ของค่ารักษาพยาบาล)    
ค่ารักษาพยาบาลสำหรับการตั้งครรภ์และการคลอดบุตรต่อครั้ง** คลอดบุตรปกติ 200,000 บาท ไม่คุ้มครอง
  ภาวะแทรกซ้อน 400,000 บาท  

 

*ผลประโยชน์สามารถใช้ได้หลังจากสัญญามีผลบังคับต่อเนื่องมามากกว่า 12 เดือน
**ผลประโยชน์สามารถใช้ได้หลังจากสัญญามีผลบังคับต่อเนื่องมามากกว่า 10 เดือน สำหรับการคลอดบุตร และมากกว่า 3 เดือน สำหรับการแท้งบุตร

 

ความคุ้มครองและผลประโยชน์

ผลประโยชน์กรณีเป็นผู้ป่วยในนผู้ป่วยใน

แผนบียอนด์ แพลทินัม สูงสุดต่อรอบปีกรมธรรม์ 120 ล้านบาท แผนแพลทินัม สูงสุดต่อรอบปีกรมธรรม์ 60 ล้านบาท
1.1 ค่าห้อง ค่าอาหาร และค่าบริการในโรงพยาบาล 20,000 บาทต่อวัน 9,000 บาทต่อวัน
1.2 ค่าบริการทางการพยาบาล จ่ายตามจริง จ่ายตามจริง
1.3 ค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าบริการในโรงพยาบาล และค่าบริการทางการพยาบาลในห้อง ICU จ่ายตามจริง จ่ายตามจริง
1.4 ค่าแพทย์ตรวจรักษา จ่ายตามจริง จ่ายตามจริง
1.5 ค่ายากลับบ้าน * จ่ายตามจริง จ่ายตามจริง
1.6 ค่ารักษาพยาบาลในรายการอื่นๆ ตามที่กำหนดในสัญญา ** จ่ายตามจริง จ่ายตามจริง

 

* ของการเกิดอุบัติเหตุต่อครั้ง
** เช่น ค่า X-ray, CT scan, MRI, Ultrasound และ ค่าตรวจเลือด เป็นต้น
*** เช่น ผ่าฝี หูด ริดสีดวงทวาร เป็นต้น

 

3. ผลประโยชน์เพิ่มเติมอื่นๆ ในกรณีเป็นผู้ป่วยในและกรณีไม่ต้องเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน ซึ่งมีตัวอย่างรายการดังต่อไปนี้ แผนบียอนด์ แพลทินัม สูงสุดต่อรอบปีกรมธรรม์ 120 ล้านบาท แผนแพลทินัม สูงสุดต่อรอบปีกรมธรรม์ 60 ล้านบาท
3.1 ค่าใช้จ่ายรายวันเพื่อการดูแล กรณีผู้เอาประกันภัยอายุต่ำกว่า 16 ปี 3,000 บาทต่อวัน 2,000 บาทต่อวัน
3.2 ค่าปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง จ่ายตามจริง จ่ายตามจริง
3.3 ค่าศัลยกรรมตกแต่ง อันเนื่องมาจากอุบัติเหตุหรือโรคมะเร็ง*** จ่ายตามจริง จ่ายตามจริง
3.4 ค่ารักษาทางทันตกรรมอันเนื่องมาจากอุบัติเหตุ*** จ่ายตามจริง จ่ายตามจริง
3.5 ค่ารักษาโรคทางจิตเวช*** (มีระยะเวลาที่ไม่คุ้มครอง 365 วัน) 500,000 บาท ตลอดสัญญาเพิ่มเติม และบันทึกสลักหลังแนบท้ายสัญญาเพิ่มเติมนี้ 400,000 บาท ตลอดสัญญาเพิ่มเติม และบันทึกสลักหลังแนบท้ายสัญญาเพิ่มเติมนี้
3.6 ค่ารักษาพยาบาลสำหรับการตั้งครรภ์และการคลอดบุตร**    
- กรณีคลอดบุตรปกติ 200,000 บาท ไม่คุ้มครอง
- กรณีภาวะแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์ หรือภาวะแทรกซ้อนขณะคลอด 400,000 บาท ไม่คุ้มครอง
3.7 ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก จ่ายตามจริง จ่ายตามจริง เลือกซื้อความคุ้มครองผู้ป่วยนอกเพิ่มได้
3.8 ค่าเวชศาสตร์ฟื้นฟู และค่ากายภาพบำบัด 40,000 บาท 20,000 บาท
3.9 ค่าเครื่องมือแพทย์ และเวชภัณฑ์คงทน 40,000 บาท 10,000 บาท
3.10 ค่าฉีดวัคซีน* 80,000 บาท 50,000 บาท
3.11 ค่าตรวจสุขภาพประจำปี* 30,000 บาท 15,000 บาท
3.12 ค่าตรวจรักษาทันตกรรม (ชดเชย 80% ของค่ารักษาพยาบาล) 100,000 บาท 45,000 บาท (เพิ่มเติมจากผลประโยชน์ 60 ล้านบาท) เลือกซื้อความคุ้มครองทันตกรรมเพิ่มได้
3.13 ค่าตรวจรักษาสายตา* (ชดเชย 80% ของค่ารักษาพยาบาล) 15,000 บาท ไม่คุ้มครอง

 

4. ระดับการจ่ายผลประโยชน์ แผนบียอนด์ แพลทินัม สูงสุดต่อรอบปีกรมธรรม์ 120 ล้านบาท แผนแพลทินัม สูงสุดต่อรอบปีกรมธรรม์ 60 ล้านบาท
4.1 กรณีการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลหรือคลินิก เครือบีดีเอ็มเอส 100% ของค่ารักษาพยาบาล ตามจำนวนเงินผลประโยชน์ข้อ 1 - 3 100% ของค่ารักษาพยาบาล ตามจำนวนเงินผลประโยชน์ข้อ 1 - 3
4.2 กรณีการรักษาพยาบาลนอกเหนือจากโรงพยาบาลหรือคลินิก เครือบีดีเอ็มเอส    
- กรณีการรักษาพยาบาลในประเทศไทย ให้ความคุ้มครอง เฉพาะกรณีเป็นผู้ป่วยฉุกเฉิน หรือฉุกเฉินวิกฤติ เท่านั้น 100% ของค่ารักษาพยาบาล ตามจำนวนเงินผลประโยชน์ ข้อ 1.1 – 1.6 ข้อ 2.2 – 2.6 ข้อ 3.1 – 3.2 และข้อ 3.4 – 3.7 100% ของค่ารักษาพยาบาล ตามจำนวนเงินผลประโยชน์ ข้อ 1.1 – 1.6 ข้อ 2.2 – 2.6 ข้อ 3.1 – 3.2 และข้อ 3.4 – 3.5
- กรณีการรักษาพยาบาลในต่างประเทศ ให้ความคุ้มครอง เฉพาะกรณีเป็นผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤติ**** เท่านั้น 100% ของค่ารักษาพยาบาล ตามจำนวนเงินผลประโยชน์ ข้อ 1.1 – 1.6 ข้อ 2.2 – 2.6 ข้อ 3.1 – 3.2 และข้อ 3.4 – 3.6 และไม่เกิน 5,000,000 บาท ต่อการเข้าพักรักษาตัวเป็น ผู้ป่วยในโรงพยาบาลแต่ละครั้ง 100% ของค่ารักษาพยาบาล ตามจำนวนเงินผลประโยชน์ ข้อ 1.1 – 1.6 ข้อ 2.2 – 2.6 ข้อ 3.1 – 3.2 และข้อ 3.4 – 3.5 และไม่เกิน 3,000,000 บาท ต่อการเข้าพักรักษาตัวเป็น ผู้ป่วยในโรงพยาบาลแต่ละครั้ง

 

* ผลประโยชน์สามารถใช้ได้หลังจากสัญญามีผลบังคับต่อเนื่องมามากกว่า 12 เดือน
**ผลประโยชน์สามารถใช้ได้หลังจากสัญญามีผลบังคับต่อเนื่องมามากกว่า 10 เดือน สำหรับการคลอดบุตร และมากกว่า 3 เดือน สำหรับการแท้งบุตร
***บริษัทจะจ่ายผลประโยชน์ภายใต้ข้อ 1, 2.5, 3.1, และ 3.2
****การเข้าเป็นผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤติในโรงพยาบาลในต่างประเทศ โดยวันที่เริ่มเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในต่างประเทศ ต้องอยู่ภายใน 30 วันนับตั้งแต่วันที่เดินทางออกนอกประเทศไทยในแต่ละครั้ง (ตามวันและเวลาของประเทศไทย)